By Chloe Pek February 05, 2020
เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิลทรงประกาศ “ลดบทบาท” ในฐานะพระบรมวงศ์เมื่อสัปดาห์ก่อน หนึ่งในเหตุผลที่พวกเขาทรงกล่าวถึงคือความปรารถนาที่จะเป็น “อิสระทางการเงิน” ก่อนหน้านี้ได้รับทุนจาก Sovereign Grant (ร้อยละห้า) และ Duchy of Cornwall ของเจ้าฟ้าชายชาร์ล (ร้อยละ 95) สิ่งเหล่านี้นำไปสู่คำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการที่ทั้งจะทรงหารายได้เป็นของตนเอง เจ้าชายชาร์ลส์ทรงตรัสอย่างรวดเร็วว่า พระองค์จะยุติการสนับสนันทางการเงินแก่ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ทันทีที่หากพวกเขาลดบทบาทจากหน้าที่ของพวกเขา
เมื่อไม่นานมานี้ที่ “การประชุมสุดยอด Sandringham” ควีนอลิซาเบธ แฮร์รี่ เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พูดคุยถึงบทบาทในอนาคตของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์แต่ทั้งหมดยังไม่เป็นที่ชัดเจน แม้ควีนอลิซาเบธจะทรงประทานพรแต่ก็เต็มไปด้วยความเสียพระทัยในการช่วยเหลือในบทบาทใหม่ของทั้งคู่
แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับราชวงศ์นอกหน้าที่ที่จะสร้างอาชีพของตัวเอง แต่ราชวงศ์อาวุโสอย่างแฮร์รี่ก็ไม่ได้จะหาได้อย่างง่ายดายนัก
View this post on Instagram
ยกตัวอย่างเช่น เจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชโอรสคนสุดท้องของควีนอลิซาเบธที่ตั้งใจแน่วแน่ที่จะมีอาชีพในวงการบันเทิง หลังจากการผลิตรายการที่ได้รับการตอบรับที่ไม่ดีนักอย่าง The Grand Knockout Tournament และต่อมากับการลงทุนที่ล้มเหลวในการเปิดตัวบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ Ardent Productions เอ็ดเวิร์ดก็ลามือจากวงการในปี 2002 และกลับมาอุทิศเวลาของเขาเพื่อทำหน้าที่เพื่อสาธารณะประโยชน์ให้กับควีนอลิซาเบธแทน เอ็ดเวิร์ดและภริยาของเขาโซฟี Countess of Wessex ได้รับเงินสนับสนุนจาก Sovereign Grant สำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการและเงินของควีนอลิซเบธ จาก Duchy of Lancaster สำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและการดูแลที่พักของราชวงศ์ของพวกเขา
เมื่อไม่นานมานี้เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ พระราชโอรสคนที่สองของควีนอลิซาเบธได้ผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับนักการเงินและผู้กระทำความผิดทางเพศ เจฟฟรีย์ เอพสเตน เพื่อนคนหนึ่งของเขาที่พบกันในระหว่างการทำงานในฐานะนักการค้าระหว่างประเทศของราชวงศ์อังกฤษและถูกปลดลงจากตำแหน่งในที่สุด หลังจากการสัมภาษณ์กับ BBC Newsnight เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งราชการอย่างเป็นทางการและเก็บตัวเงียบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในขณะที่เรารอการแถลงการณ์เพิ่มเติมจาก Buckingham Palace เพื่อเคลียร์ข้อสงสัย เรามาดูเรื่องราวความสำเร็จจากพระราชวงศ์องค์อื่น ๆ ที่มีอิสระทางการเงินที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างห่างไกลจากบัลลังก์
View this post on Instagram
Princess Beatrice of York ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 9 ของราชบัลลังก์อังกฤษ จบการศึกษาจาก Goldsmiths University of London ปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงมีกำหนดการอภิเษกสมรสกับมหาเศรษฐี Edoardo Mapelli Mozzi ในปีนี้ ปัจจุบันพระองค์ทำงานกับบริษัทซอฟต์แวร์ Afiniti ซึ่งพระองค์ทำหน้าที่เป็นรองประธานหุ้นส่วนและนักกลยุทธ์ ประวัติการทำงานของพระองค์ทรงเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้พระองค์ทรงงานที่บริษัทเอกชนที่มุ่งเน้นเรื่องผู้บริโภคเป็นหลักชื่อ Sandbridge และเป็นผู้ร่วมพัฒนาธุรกิจที่ Sony Pictures Television เช่นเดียวกับราชวงศ์ส่วนใหญ่ พระองค์ทรงงานด้านการกุศลและเป็นผู้อุปถัมภ์การกุศลและไม่หวังผลกำไรอื่น ๆ อีกมากมาย
View this post on Instagram
Princess Eugenie พระราชธิดาคนสุดท้องของ Prince Andrew เรียนวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์วรรณคดีอังกฤษและการเมืองที่ Newcastle University Eugenie พระองค์เป็นคนที่เข้ากับคนง่ายและรู้จักผู้คนมากมาย พระองค์ทรงเลือกจะมีอาชีพในสายงานศิลปะในฐานะประธานหอศิลป์ Hauser & Wirth ก่อนที่จะทรงงานกับหอศิลป์ พระองค์ทรงงานให้กับบริษัทประมูลออนไลน์ Paddle8 ในฐานะผู้จัดการประมูลการกุศล พระองค์ยังสนับสนุนองค์กรการกุศลต่าง ๆ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มต่อต้านการเป็นทาสอีกด้วย
View this post on Instagram
Peter Phillips พระราชนัดดาคนโตของควีนอลิซาเบธ พระโอรสคนโตของ Princess Anne อยู่ในอันดับที่ 15 ของราชบัลลังก์อังกฤษ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Exeter ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้ดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาหลายประเภท พระองค์เคยทรงงานในตำแหน่ง Corporate Hospitality Manager ให้บริษัทจากัวร์ Senior Account Manager ให้กับ Williams racing team รวมถึงผู้จัดการที่ Royal Bank of Scotland ใน Edinburgh ที่ซึ่งพระองค์ช่วย “ออกแบบและดำเนินการโครงการสนับสนุนของ Formula One ระดับโลกเป็นครั้งแรก” ปัจจุบันพระองค์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการให้กับ Sports and Entertainment Limited UK ที่พระองค์ทรงก่อตั้งขึ้นกับที่ปรึกษาส่วนตัว James Erskine
View this post on Instagram
Zara Tindall พระราชธิดาคนเล็กของ Princess Anne อยู่ในอันดับที่ 18 ของราชบัลลังก์อังกฤษ เป็นที่รู้จักในฐานะนักขี่ม้าที่ประสบความสำเร็จ พระองค์ได้รับรางวัล Eventing World Championship ใน Aachen ในปี 2006 และยังคงครองตำแหน่ง Eventing World Champion จนถึงปี 2010 Zara ยังได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในฐานะสมาชิกของทีมขี่ม้าอังกฤษ ทรงได้รับรางวัลเหรียญเงินในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกลอนดอน 2012 เช่นเดียวกับพระราชมารดาของพระองค์ที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการกุศลโดยเฉพาะ เรื่องการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง การขี่ม้าและเรื่องเด็ก
View this post on Instagram
พระราชโอรสของ Princess Margaret และ Antony Armstrong-Jones David Armstrong-Jones เป็นที่รู้จักในวงการในนาม David Linley ซึ่งเป็น Linley เดียวกับผู้ก่อตั้งแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มีชื่อเสียง พระองค์สูญเสียหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทหลังจากขายหุ้นจำนวน 4 ล้านปอนด์ในปี 2012 เดวิดยังเป็นประธานของ Christie’s UK ในปี 2006 และในที่สุดก็กลายเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของ EMERI ของยุโรป (ยุโรป ตะวันออกกลางรัสเซียและอินเดีย) ในปี 2015
View this post on Instagram
พระราชธิดาคนเล็กของ Princess Margaret ประสูติในนาม Sarah Armstrong-Jones เป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลได้รับรางวัล The Windsor & Newton Prize ในปี 1988 และ The Creswick Landscape Prize ในปี 1990 ในฐานะจิตรกรมืออาชีพของแกลเลอรี่ The Redfern Gallery พระองค์ได้แสดงผลงานที่แกลเลอรี่ตั้งแต่ปี 1995 นอกจากนี้พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งรองประธานของ The Royal Ballet ตั้งแต่ปี 2004 ซึ่ง Princess Margaret เคยเป็นผู้อุปถัมภ์
View this post on Instagram
Lady Amelia Windsor อยู่ในอันดับที่ 18 ของราชบัลลังก์อังกฤษ เป็นพระราชนัดดาของเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ดดยุคแห่งเคนต์ ถูกกล่าวขานในนาม “สมาชิกที่สวยที่สุดในราชวงศ์อังกฤษ” พระองค์ได้สร้างอาชีพให้กับตัวเองในฐานะนางแบบแฟชั่นของ Storm Model Management ทรงปรากฏตัวบนรันเวย์และปกนิตยาสารแฟชั่นหลายฉบับ นอกจากนี้พระองค์ยังเป็นบรรณาธิการแฟชั่นของ tatler.com อีกด้วย