ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางวิวที่น่าทึ่งของเส้นขอบฟ้าเมืองกรุงเทพฯคือบ้านสุดหรูแสนอบอุ่นของ คุณเอ๋ กัญญารัตน์ พลาดิศัย ที่ Marque Sukhumvit ในซอยสุขุมวิท 39 เธอต้อนรับเราอยู่หน้าลิฟต์ส่วนตัวไปยังห้องโถงสีฟ้าสู่บ้านหลังใหม่ของเธอด้วยท่าทางที่สง่างามสมกับที่เป็นนักกีฬาลีลาศที่ประสบความสำเร็จอย่างที่เธอเป็น
ในขณะที่ช่างภาพของเรากำลังเดินสำรวจบ้านเพื่อหามุมถ่ายภาพ คุณกัญญารัตน์เริ่มเล่าให้เราฟังว่าเธอและสามี คุณฉัตรชัย มาพบและตกลงเลือกบ้านหลังนี้ได้อย่างไร “เจ้าของคนก่อนมีแผนที่จะทำการปรับปรุงห้องใหม่ทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงรื้อเฟอร์นิเจอร์และทุกอย่างในบ้านออกทั้งหมด แม้กระทั่งพื้นและประตู พื้นที่ทั้งหมด 195 ตารางเมตรจึงโล่งว่าง แต่ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจเริ่มตกแต่งใหม่ พวกเขาก็ประกาศขาย พวกเราเห็นประกาศ เลยคิดว่า ว้าว…นี่คือห้องเปล่าที่เราจะได้ออกแบบเอง”
คุณกัญญารัตน์ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่างานตกแต่งและประดับห้องใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ แต่เธอก็มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสนุกไปกับทุกขั้นตอน “คุณฉัตรชัยให้ฉันควบคุมการออกแบบได้อย่างเต็มที่ – ฉลาดมาก” เธอหัวเราะ “ตั้งแต่ผนัง ประตู ไปจนถึงการเลือกสี วอลล์เปเปอร์ พื้นพรม กระเบื้อง เฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…ขอให้บอก ฉันเลือกทุกอย่างเองกับมือ”
รูปปั้นโลหะรูปหมาที่อยู่ข้างประตูทางเข้าสีฟ้าที่ตกแต่งด้วยเลขห้องสีทองและที่เคาะประตูรูปหัวสิงโต ช่วยเสริมความหรูหราให้กับบ้านหลังนี้ได้อย่างดี “เราไปได้ชิ้นนี้มาจากลอนตอนเมื่อตอนไปเยี่ยมลูกชายที่เรียนอยู่ที่อังกฤษ” กัญญารัตน์อธิบาย โดยเธอกล่าวถึงน้องจัสติน ลูกชายวัย 16 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียน King Edward’s Witley “เราเจาะจงขอสีนี้และเงาสีทองโดยเฉพาะ และเราก็ขนมันกลับมาเองในกระเป๋าเดินทางของเรา” เธอหัวเราะ
เมื่อเดินผ่านห้องโถงเข้ามา แขกที่มาเยี่ยมจะพบกับคอลเลคชั่นของประดับตกแต่งอยู่บนโต๊ะวางของสีน้ำเงินตกแต่งด้วยหินอ่อนสุดหรู เหนือโต๊ะวางของขึ้นไปคือหน้ากากงานคาร์นิวัลสีขาวทองที่แขวนอยู่บนผนังสีฟ้าอ่อนราวกับกลุ่มก้อนเมฆ “ฉันเลือกสีเพื่อให้เข้ากับวิวในช่วงบ่ายที่มีแดด” กัญญารัตน์อธิบาย “ในช่วงเวลาที่เหมาะสม กำแพงและวิวภายนอกแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียว”
คุณกัญญารัตน์และครอบครัวได้บ้านสุดหรูที่ Marque Sukhumvit มาครองก่อนที่พวกเขาจะย้ายเข้าอยู่ที่ Vittorio Condominium ในปี 2018 “แผนเดิมคือเราจะอยู่ที่ Vittorio ในขณะที่ปรับปรุงบ้านหลังนี้ แล้วค่อยย้ายมาที่นี่ แต่ฉันยอมรับว่าเราใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ต้องรออะไรหลาย ๆ อย่าง ฉันต้องการเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งที่เฉพาะเจาะจงในการออกแบบแต่ละอย่าง และทุกอย่างต้องใช้เวลา ฉันต้องการทำให้มันถูกต้องและไม่ต้องเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ” ราชินีประจำบ้านกล่าว นี่คือเหตุผลว่าทำไมสิ่งที่ตามมาคือการเดินทางตลอด 2 ปีเต็มของสถาปัตยกรรมที่พิถีพิถันหาที่ติมิได้
จากห้องโถง เปิดออกไปยังห้องนั่งเล่นที่โล่งกว้าง รายล้อมด้วยประตูกระจกบานใหญ่ที่เป็นทางออกไปยังระเบียงแและอ่างจากุซซี่ ทางด้านขวามีห้องน้ำรับแขกขนาดเล็กที่ดึงดูดความสนใจเราทันที นั่นคือนกที่ส่งเสียงร้องจิ้บ ๆ วอลล์เปเปอร์ลายธรรมชาติที่มาพร้อมกับนกแก้วเปเปอร์มาเช่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หมู่นกและแมกไม้ แต่ยังคงธีมผนังห้องสีฟ้าไปจนถึงห้องนั่งเล่น ผนังที่ล้อมรอบด้วยกรอบสีทองทำให้รู้สึกถึงความมั่งคั่งดั่งนครปารีส เช่นเดียวกับเสาคอลัมน์ที่อยู่บนผนัง โคมระย้าสีทองที่แขวนอยู่ด้านบนเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้กับห้องได้อย่างดี เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว เผยให้เห็นถึงบรรยากาศเสมือนย้อนกลับไปในยุคคลาสสิก “การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมเข้ากับสไตล์และสีของผนังเป็นงานที่ยากใช้ได้” กัญญารัตน์ยอมรับ
เมื่อเดินผ่านห้องโถงเข้ามา แขกที่มาเยี่ยมจะพบกับคอลเลคชั่นของประดับตกแต่งอยู่บนโต๊ะวางของสีน้ำเงินตกแต่งด้วยหินอ่อนสุดหรู เหนือโต๊ะวางของขึ้นไปคือหน้ากากงานคาร์นิวัลสีขาวทองที่แขวนอยู่บนผนังสีฟ้าอ่อนราวกับกลุ่มก้อนเมฆ “ฉันเลือกสีเพื่อให้เข้ากับวิวในช่วงบ่ายที่มีแดด” กัญญารัตน์อธิบาย “ในช่วงเวลาที่เหมาะสม กำแพงและวิวภายนอกแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียว”
คุณกัญญารัตน์และครอบครัวได้บ้านสุดหรูที่ Marque Sukhumvit มาครองก่อนที่พวกเขาจะย้ายเข้าอยู่ที่ Vittorio Condominium ในปี 2018 “แผนเดิมคือเราจะอยู่ที่ Vittorio ในขณะที่ปรับปรุงบ้านหลังนี้ แล้วค่อยย้ายมาที่นี่ แต่ฉันยอมรับว่าเราใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ต้องรออะไรหลาย ๆ อย่าง ฉันต้องการเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งที่เฉพาะเจาะจงในการออกแบบแต่ละอย่าง และทุกอย่างต้องใช้เวลา ฉันต้องการทำให้มันถูกต้องและไม่ต้องเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ” ราชินีประจำบ้านกล่าว นี่คือเหตุผลว่าทำไมสิ่งที่ตามมาคือการเดินทางตลอด 2 ปีเต็มของสถาปัตยกรรมที่พิถีพิถันหาที่ติมิได้
จากห้องโถง เปิดออกไปยังห้องนั่งเล่นที่โล่งกว้าง รายล้อมด้วยประตูกระจกบานใหญ่ที่เป็นทางออกไปยังระเบียงแและอ่างจากุซซี่ ทางด้านขวามีห้องน้ำรับแขกขนาดเล็กที่ดึงดูดความสนใจเราทันที นั่นคือนกที่ส่งเสียงร้องจิ้บ ๆ วอลล์เปเปอร์ลายธรรมชาติที่มาพร้อมกับนกแก้วเปเปอร์มาเช่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หมู่นกและแมกไม้ แต่ยังคงธีมผนังห้องสีฟ้าไปจนถึงห้องนั่งเล่น ผนังที่ล้อมรอบด้วยกรอบสีทองทำให้รู้สึกถึงความมั่งคั่งดั่งนครปารีส เช่นเดียวกับเสาคอลัมน์ที่อยู่บนผนัง โคมระย้าสีทองที่แขวนอยู่ด้านบนเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้กับห้องได้อย่างดี เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว เผยให้เห็นถึงบรรยากาศเสมือนย้อนกลับไปในยุคคลาสสิก “การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมเข้ากับสไตล์และสีของผนังเป็นงานที่ยากใช้ได้” กัญญารัตน์ยอมรับ
โซฟา Fendi Casa สีเทาและหมอนอิงผ้าไหมจาก Hermes ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องนั่งเล่น ระหว่างชั้นวางสีทองทั้งสองข้างที่ถูกตกแต่งด้วยหนังสือ รูปครอบครัว และรางวัลจากการแข่งขันลีลาศ “มันเป็นมุมโปรดของทุกคนในครอบครัว” กัญญารัตน์หัวเราะ “แต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่ฉันขอให้ต้องมีคือเก้าอี้ทรงไข่ตัวนี้” เธอกล่าวขณะลงไปนั่งที่เก้าอี้ทรงไข่รุ่น Limited Edition ครบรอบ 60 ปีของ Arne Jacobsen โต๊ะกาแฟฐานโบราณสีทองจาก Bonheur ที่งดงามตั้งอยู่ระหว่างโทรทัศน์และมุมโปรดของครอบครัว ถัดจากห้องนั่งเล่นคือห้องครัวและบาร์ที่สามารถมองเห็นโต๊ะกระจกในห้องรับประทานอาหารและระเบียงที่สวยงาม
คุณกัญญารัตน์ยอมรับว่าเพราะลูกชายของเธอกำลังศึกษาในต่างประเทศและสามีที่มักจะต้องเดินทางไปทำธุรกิจ เธอมีเวลาว่างให้กับตัวเองมาก “ส่วนใหญ่ในตอนเช้าฉันจะนั่งดื่มกาแฟอยู่ตรงบาร์ แล้วก็เก็บกวาดห้องนิดหน่อยก่อนที่จะออกไปทำโปรเจกต์อะไรก็ตามที่ทำอยู่” เดิมทีมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง แต่เป็นถึงแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ เธอจึงเปลี่ยนห้องนอนที่ 3 ให้กลายเป็นตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ห้องนอนที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นทำหน้าที่เป็นห้องพักแขกและห้องนอนของน้องจัสตินเมื่อเขากลับมาประเทศไทยช่วงปิดเทอม ซึ่งมีห้องน้ำในตัวที่ประดับด้วยพรมและผ้าคลุมที่นั่งจาก Gucci
ฝั่งตรงข้ามกับบริเวณห้องรับประทานอาหารคือห้องนอนใหญ่ที่มีผนังสีขาวบริสุทธิ์ตาตัดกันดีกับพื้นไม้ ทางด้านขวาคือตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน คุณกัญญารัตน์เลื่อนบานประตูออกและทันใดนั้นแสงสีเหลืองอบอุ่นก็สาดส่องออกมาเผยให้เห็นห้องที่ถูกจัดอย่างประณีต ตั้งแต่เสื้อแบรนด์เนม กระโปรง เดรส ไปจนถึงเครื่องประดับ โต๊ะแต่งหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับแสงไฟสตูดิโอที่สั่งทำขึ้นมาพิเศษซ่อนอยู่ตรงมุมห้อง แฟชั่นนิสต้าตัวแม่คนนี้ยอมรับว่าเธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนี้ “ส่วนหนึ่งของกิจวัตรคือเข้ามาในห้องนี้เพื่อจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าของฉัน ในแต่ละส่วนของตู้จะถูกแบ่งออกตามประเภทเสื้อผ้า ฉันจัดระเบียบทุกอย่างในห้องนี้ให้เหมือนกับโซนแฟชั่นในห้างสรรพสินค้า” เธอหัวเราะ ห้องที่เปรียบดั่งสวรรค์ของสาว ๆ ทั้งหลายถูกเติมแต่งอย่างสมบูรณ์แบบด้วยกล่องแบรนด์เนมที่จัดวางไว้บนชั้นวางด้านบน
ห้องนอนใหญ่ได้รับการออกแบบโดยมีห้องนอนหรูในโรงแรมห้าดาวเป็นแรงบันดาลใจ มุมแรกของห้องคือมุมที่มีวงโค้งสุดคลาสสิกดูหรูหราบนวอลล์เปเปอร์ลาย Hermes ‘Fil d’Argent เติมเต็มมุมสวยด้วยเปเปอร์มาเช่รูปหงส์จาก Liberty in London หน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่และให้ทัศนียภาพอันงดงามของเมืองกรุงเทพฯ โต๊ะทำงานขนาดกระทัดรัดตั้งอยู่ตรงข้ามกับเตียงคู่ Fendi Casa Cameo ขนาดใหญ่ “มันถูกเก็บไว้ในโกดังเป็นเวลา 1 ปีเต็ม” กัญญารัตน์หัวเราะ “ตอนนั้นเรายังยุ่งกับการปรับปรุงห้องอยู่ พวกเขากังวลมากว่าฉันจะไม่อยากได้เตียงอีกแล้ว” ห้องน้ำที่ถูกดีไซน์ด้วยหินอ่อน ตกแต่งด้วยอ่างอาบน้ำและทุกสิ่งที่เป็น Chanel ตั้งแต่พรมไปจนถึงผ้าขนหนู อ่างล้างหน้าสุดหรูที่มาพร้อมกับหัวก๊อกน้ำและมือจับสีทองให้ความรู้สึกย้อนยุคอย่างลงตัว
หลังจาก 2 ปีเต็มกับการใส่ใจทุกขั้นตอน คุณกัญญารัตน์กล่าวว่าการตกแต่งภายในของบ้านสุดหรูหลังนี้ได้เสร็จสมบูรณ์ดั่งใจหวัง สง่างามและอบอุ่นเหมือนบ้าน เต็มไปด้วยความทรงจำจากการเดินทางบ่อยครั้งของครอบครัวที่มีให้เห็นอยู่ในทุกมุมของบ้าน มันเป็นพื้นที่ที่เธอสามารถเรียกว่าบ้านของเธอได้อย่างเต็มปาก แล้วจะมีโปรเจกต์ต่อไปอีกไหม? “ระเบียง – ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีสวนเล็ก ๆ”